การบริการวิชาการชุมชน

 


1 โครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน (Science in Schools-SiS)
เพื่อเสริมสร้างความสามารถของโรงเรียนมัธยมด้านวิทยาศาสตร์


กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มีนโยบายชัดเจนที่จะวางรากฐานการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เข้มแข็ง โดยเล็งเห็นว่าการจะเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศจำเป็นที่จะต้องสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในประเทศ ดังนั้นจึงได้มีการตกลงในระดับนโยบายร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อที่จะร่วมมือและประสานพลังกันในการพัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน เพราะถือว่าเป็นรากฐานเบื้องต้นที่สำคัญ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ให้จัดทำโครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน (Science in Schools-SiS) โดยความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานอื่นภายในกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ร่วมดำเนินการในโครงการนำร่องโดยตั้งเป้าหมายที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้โรงเรียน จำนวน 15 โรงเรียน ซึ่งกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ใน 5 ภูมิภาคของประเทศคือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาให้ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ รวมทั้งเพื่อพัฒนาให้เกิดโรงเรียนตัวอย่างทางด้านการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และสามารถเป็นโรงเรียนต้นแบบให้กับโรงเรียนในท้องถิ่นเดียวกันได้
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันพี่เลี้ยงเครือข่าย คือ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ให้เป็นสถาบันพี่เลี้ยงในโครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน เพื่อดูแลโรงเรียนในภาคเหนือ โดยในปี พ.ศ. 2543 มีโรงเรียนที่ได้ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมโครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน จำนวน 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนแม่จันวิทยาคม จังหวัดเชียงราย และโรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม และในปีการศึกษา 2544 ได้คัดเลือกโรงเรียนคณฑีวิทยาคม จังหวัดกำแพงเพชร เข้าร่วมอีก 1 โรงเรียน

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้มีการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ โดยมุ่งส่งเสริมให้เด็กนักเรียนเข้าใจความหมายและบทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อการพัฒนาอาชีพ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และใฝ่ใจศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

  2. เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สามารถพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ

  3. เพื่อให้มีการขยายโอกาสทางการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพไปยังจังหวัดต่างๆ อย่างทั่วถึงในระยะยาว

  4. เพื่อพัฒนาให้เกิดโรงเรียนตัวอย่าง ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบและให้ความช่วยเหลือโรงเรียนในท้องถิ่นเดียวกันได้

  5. เพื่อประสานพลังและทรัพยากรของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายนอกกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อพัฒนากำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระยะยาวย่างมีประสิทธิภาพ

เป้าหมายโครงการ


พัฒนา "โรงเรียนตัวอย่าง" ทางด้านการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นโครงการนำร่อง จำนวน 15 โรงเรียน ในปีแรกของโครงการ คือ ปีงบประมาณ 2543 และขยายให้มีโรงเรียนตัวอย่างอย่างน้อยจังหวัดละหนึ่งโรงเรียนจนครบทุกจังหวัดในระยะเวลา 3 ปี รวมทั้งให้โรงเรียนตัวอย่างสามารถเป็นโรงเรียนต้นแบบให้กับโรงเรียนอื่น ๆ ในท้องถิ่นเดียวกันได้

กลยุทธ์ในการดำเนินงาน

  1. การพัฒนาขีดความสามารถของโรงเรียนในโครงการ เป็นลักษณะการพัฒนาทั่วทั้งโรงเรียน (wholeschool approach)

  2. การจัดการเรียนการสอนมุ่งการเรียนรู้ด้วย problem-based, activity-based, project-based learning

  3. จัดกิจกรรมหรือการให้ความช่วยเหลือแต่ละโรงเรียน ควรจะต้องมีรูปแบบที่หลากหลายและเหมาะสมกับสภาพพื้นฐานและศักยภาพในการพัฒนาของแต่ละโรงเรียน
  4. ต้องมีการวางแผนแม่บทในการพัฒนา ซึ่งหมายรวมถึง แผนแม่บทของโครงการโดยรวม และแผนแม่บทของการพัฒนาแต่ละโรงเรียน เพื่อในที่สุดสามารถประเมินผลและสามารถสร้างรูปแบบให้เกิดความยั่งยืนในการพัฒนาได้

  5. การส่งเสริมและสนับสนุนโรงเรียน ต้องเป็นการสนับสนุนหรือส่งเสริมให้โรงเรียน (ผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง) เป็นผู้ทำกิจกรรม ไม่ควรเป็นการไปทำให้

  6. การพัฒนาต้องอยู่บนฐานของความร่วมมือ คือ โรงเรียนต้องพร้อมที่จะร่วมโครงการ และมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่าจะเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของตนในเรื่องใด อย่างไร ซึ่งจะต้องเป็นการปรับทัศนคติและมุ่งเป้าหมายร่วมกันไม่ใช่การยัดเยียดให้ โรงเรียนทำ

  7. ต้องสร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้ที่สนใจในเรื่องการพัฒนาการศึกษาในโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนของแต่ละโรงเรียนซึ่งหมายรวมถึงกลุ่มบุคลากรของโรงเรียนเอง กลุ่มผู้ปกครอง กลุ่มประชาชนในชุมชน เพราะความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยความพร้อมและการร่วมมืออย่างจริงจังภายในชุมชนด้วย ต้องมีสถาบันพี่เลี้ยงหลักซึ่งเป็นแกนนำของแต่ละภูมิภาคและสถาบันพี่เลี้ยงหลักจะทำงานเป็นเครือข่ายกับสถาบันพี่เลี้ยงอื่นๆ ที่อยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกัน

  8. สถาบันพี่เลี้ยงหลักและสถาบันพี่เลี้ยงเครือข่าย ควรดูแลโรงเรียนเป็นลักษณะกลุ่มโรงเรียน ซึ่งผสมผสานกันระหว่างโรงเรียนที่มีศักยภาพหรือมีความพร้อมมาก ปานกลาง และน้อย จะต้องไปเยี่ยมโรงเรียนเป็นระยะอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้กำลังใจและช่วยแก้ไขปัญหาหรือศึกษาความต้องการช่วยเหลือในเรื่องใดและเพื่อวัดความก้าวหน้าของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง

  9. จะต้องทำให้โรงเรียนที่ได้รับการพัฒนา เป็นตัวคูณให้กับโรงเรียนในท้องถิ่นเดียวกันให้ได้ ดังนั้นต้องคำนึงถึงการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เป็นหลัก มิฉะนั้นการขยายผลจะทำได้โดยยาก

ในปีการศึกษา 2544 ที่ผ่านมาคณะวิทยาศาสตร์ ร่วมมือกับโรงเรียนในโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนการทำงานของโครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน เช่น
การเยี่ยมโรงเรียนในโครงการทั้ง 3 โรงเรียน ประมาณ 18 ครั้ง

  1. การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แบบองค์รวม" ระหว่างวันที่ 22-26 เมษายน 2544 ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ครูจากโรงเรียนในโครงการ ประมาณ 50 คน รวมทั้งคณาจารย์ในสถาบันพี่เลี้ยง ผู้ทรงคุณวุฒิ อีกประมาณ 20 คน

  2. การจัดค่ายวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน ณ โรงเรียนคณฑีวิทยาคม ระหว่างวันที่ 9-13 ตุลาคม 2544 โดยมีนักเรียน ครู นักศึกษาพี่เลี้ยง คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเข้าค่ายประมาณ 300 คน

  3. การจัดค่ายวิทยาศาสตร์ทางทะเล ณ โรงเรียนมกุฎเมืองราชวิทยาลัย จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 18-22 ตุลาคม 2544 การจัดค่ายวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ โดยความร่วมมือ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และโรงเรียนมกุฎเมืองราชวิทยาลัย ร่วมเป็นเจ้าภาพการจัดค่าย สำหรับผู้เข้าค่าย ประกอบด้วย นักเรียนและครูจากโครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โครงการ STARS* คณาจารย์จากทั้ง 4 มหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเข้าค่ายประมาณ 300 คน

  4. นอกจากกิจกรรมดังกล่าวแล้ว โครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนยังสนับสนุนให้ครู นักเรียน จากโรงเรียนในโครงการเข้าร่วมกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อื่น ๆ อีกหลายกิจกรรม

2 โครงการโอลิมปิกวิชาการ


ตามที่ประเทศไทยได้ส่งนักเรียนไปแข่งขันวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะวัดมาตรฐานการศึกษามัธยมศึกษาของประเทศไทยเทียบเท่าสากล และนำความรู้ที่ได้จากการแข่งขันมาช่วยยกระดับการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของประเทศ แต่การดำเนินการส่งเสริมเยาวชนไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการสาขาวิชาต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ด้วยเหตุผลหลายประการ มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์(สอวน.) และ มูลนิธิ สอวน. ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค 10 ศูนย์ และส่วนกลางที่กรุงเทพฯ 5 ศูนย์ ดำเนินการเตรียมความพร้อม และคัดเลือกนักเรียนเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับประเทศ ตลอดจนเตรียมครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ให้มีคุณภาพ ให้มีความพร้อมที่จะช่วยในการพัฒนาการเรียนการสอนของโรงเรียนในอนาคตต่อไป
สำหรับในเขตการศึกษา 8 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการร่วมมือกับโรงเรียนในเครือข่าย 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย โรงเรียนจักรคำคณาทร จังหวัดลำพูน โรงเรียนห้องสอนศึกษา จังหวัดแม่ฮ่องสอน โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จังหวัดลำปาง โรงเรียนพะเยาพิทยาคม จังหวัดพะเยา โรงเรียนสตรีศรีน่าน จังหวัดน่าน และโรงเรียนพิริยาลัย จังหวัดแพร่ เพื่อดำเนินการตามโครงการโอลิมปิกวิชาการดังกล่าว

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้เยาวชนไทยที่จะไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ได้รับการเตรียมความพร้อมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเต็มที่ สามารถเข้าร่วมแข่งขันกับเยาวชนจากนานาประเทศได้อย่างมั่นใจ และประสบความสำเร็จในการแข่งขันได้มากขึ้น

  2. เพื่อขยายจำนวนนักเรียนให้ได้มีโอกาสเข้ามารับการฝึกอบรมในโครงการโอลิมปิกวิชาการมากขึ้น

  3. เพื่อเพิ่มจำนวนอาจารย์วิทยาศาสตร์ และอาจารย์คณิตศาสตร์ที่มีคุณภาพและมีความพร้อมที่จะช่วยในการพัฒนาการเรียนการสอนในระดับโรงเรียนให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าสากล

  4. เพื่อส่งเสริมให้มีการนำประโยชน์ที่ได้จากการดำเนินการโครงการโอลิมปิกวิชาการมาพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ให้ได้ระดับมาตรฐานเทียบเท่าสากล

  5. เพื่อให้ได้หลักสูตรพิเศษที่สามารถนำไปใช้คัดเลือกนักเรียนที่ดีเด่นอย่างแท้จริง เข้ามหาวิทยาลัยในประเทศในอนาคต

วิธีการดำเนินการ


สร้างและพัฒนาศักยภาพของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ล่วงหน้า 1 ปี ก่อนส่งเข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการตามปกติ ใน 5 สาขาวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์ โดยจัดค่ายและดำเนินการในช่วงปิดภาคการศึกษาที่ 1 และปิดภาคการศึกษาที่ 2 และแบ่งการจัดค่ายเป็น 2 ครั้ง ดังนี้

  1. ค่าย 1 จัดในช่วงปิดภาคการศึกษาที่ 1 จำนวนนักเรียนสาขาวิชาละ 35 คน 5 สาขาวิชา รวมทั้งหมด 175 คน ระยะเวลาในการจัดค่ายประมาณ 15 วัน

  2. ค่าย 2 จัดในช่วงปิดภาคการศึกษาที่ 2 นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจากค่าย 1 สาขาวิชาละ 20 คน 5 สาขาวิชา รวมทั้งหมด 100 คน ระยะเวลาในการจัดค่ายประมาณ 15 วัน

  3. นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจากการเข้าค่าย 2 จะได้รับการเสนอชื่อให้ไปแข่งขันเพื่อคัดเลือก เข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการ ระดับประเทศ และสำหรับผู้ได้รับการคัดเลือกให้ไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติ จะได้รับทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และระดับปริญญาเอก ณ ต่างประเทศทุกคน

ในปีการศึกษา 2543 มีนักเรียนที่ผ่านการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการค่าย 1 และค่าย 2 และไปสอบแข่งขันเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการระดับประเทศ เพื่อเข้าค่าย 3 ณ สำนักงานส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 2 คน คือ คือ นายธนิสร เหง้าจำปา สาขาเคมี จากโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ได้เหรียญทองแดง และนายอดิศร ไชยบาง สาขาชีววิทยา จากโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ได้เหรียญเงิน
สำหรับในปีการศึกษา 2544 คณะวิทยาศาสตร์ได้รับรับสมัครนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2544 โปรแกรมวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่อยู่ในเขตการศึกษาเพื่อสอบคัดเลือกเข้า ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน - 10 สิงหาคม 2544 โดยมีผู้สมัครสอบคัดเลือกทั้งหมด 812 คน จาก 43 โรงเรียน และสอบแข่งขัน ณ โรงเรียนเครือข่ายประจำจังหวัด ในวันที่ 9 กันยายน 2544 โดยมีนักเรียนที่ผ่านคัดเลือกเข้าค่าย 1 จำนวน 165 คน จาก 25 โรงเรียน และนักเรียนได้เข้าค่าย 1 เมื่อวันที่ 8-22 ตุลาคม 2544 หลังจากนี้จะได้คัดเลือกนักเรียนจากค่าย 1 เพื่อเข้าค่าย 2 สาขาวิชาละประมาณ 20 คน ได้จำนวนนักเรียนรวม 101 คน และนักเรียนจะเข้าค่าย 2 ณ คณะวิทยาศาสตร์ ระหว่างวันที่ 11-26 มีนาคม 2545

3 การอบรมครูวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำภาคฤดูร้อน

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้ความร่วมมือสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ รับเป็นศูนย์อบรมครูวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในสาขาวิชาคณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ คอมพิวเตอร์ และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ภาคฤดูร้อนปี 2542 เป็นต้นมา ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เข้าอบรมในแต่ละสาขาวิชาเป็นครูวิทยาศาสตร์จากโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา และจากโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานการศึกษาเอกชน โดยสาขาวิชาเคมีฝึกอบรมที่ภาควิชาเคมี สาขาวิชาฟิสิกส์ฝึกอบรมที่ภาควิชาฟิสิกส์ สาขาชีววิทยา และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมฝึกอบรมที่ภาควิชาชีววิทยา สาขาคณิตศาสตร์ฝึกอบรมที่ภาควิชาคณิตศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ฝึกอบรมที่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
การอบรมแต่ละสาขาวิชาแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร คือ หลักสูตร 1, 2 และ 3 โดยหลักสูตร 1 และหลักสูตร 2 มุ่งเน้น ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ในเนื้อหาวิชา ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ ส่วนหลักสูตร 3 มุ่งเน้นทางด้านวิจัย โดยให้ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจ ในทฤษฏี กระบวนการทำวิจัย ฝึกปฏิบัติการทำวิจัย และการเขียนรายงานการวิจัยในสาขาวิชาที่เข้าฝึกอบรม สำหรับในภาคฤดูร้อนปี 2542, 2543 และ 2544 คณะวิทยาศาสตร์ ได้ดำเนินการฝึกอบรมในหลักสูตร 1 ทุกสาขาวิชาที่ได้รับมอบหมายให้เป็นศูนย์ฝึกอบรม ส่วนภาคฤดูร้อนปี 2545 คณะวิทยาศาสตร์ ได้รับมอบหมายให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมในหลักสูตร 1 และ 2 ของทุกสาขาวิชาดังกล่าวข้างต้น ผู้เข้าอบรมจะได้รับการอบรมทั้งภาคทฤษฏี และปฏิบัติ ตลอดจนทัศนศึกษาในสถานที่ที่เกี่ยวข้องทางด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาและส่งเสริมความรู้ทางวิชาการ และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ให้แก่ครูวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อจะได้นำเอาความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ในสาขาวิชาที่เข้าอบรมต่อไป


รายงานประจำปี 2544